น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งการอุปโภคและบริโภค น้ำที่เราบริโภคเข้าไปนั้นจะนำไปใช้ในการทำงานของระบบต่างๆของร่างกาย การบริโภคน้ำปริมาณน้อยเกินไปหรือมากเกินไปส่งผลกระทบต่อสุขภาพและทำให้ร่างการเจ็บป่วยได้ ดังนั้นการบริโภคน้ำในปริมาณที่พอเหมาะจะทำให้สุขภาพดีได้
ปริมาณน้ำที่เหมาะสมในการบริโภคในแต่ละวัน
ภาวะปกติปริมาณที่ดื่มควรจะเท่ากับปริมาณน้ำที่ขับออกทางระบบต่างๆ ประมาณ 3.4 ลิตรต่อวันหรือ 0.04-0.05 ลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่ในภาวะที่อื่นๆเช่น ออกกำลังกาย ท้องเสีย ความต้องการน้ำจะเพิ่มมากขึ้นมากกว่าปกติ ร่างกายเราจะสูญเสียน้ำทาง ผิวหนัง อุจจาระ ปัสสาวะ และจากการหายใจ รวมทั้งหมดประมาณ 3-5 ลิตรต่อวัน ซึ่งจะมีปริมาณที่ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับอายุ กิจกรรมที่ทำ รวมถึงสภาพร่างการของแต่ละคนด้วย ส่วนน้ำที่ร่างกายได้รับนั้นมาจากการดื่มน้ำโดยตรงประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน น้ำที่เป็นส่วนประกอบของอาหาร และจากการเผาผลาญสารอาหารประมาณ 1-2 ลิตรต่อวัน
การที่ร่างกายได้รับน้ำน้อยเกินไปจะมีอาการที่แสดงออกมาคือ ปากแห้ง ผิวแห้ง เหี่ยวและกร้าน ท้องผูก ปัสสาวะเข้ม กระบอกตาลึกและมีรอยคล้ำรอบดวงตา ตะคริว ปวดหัว เซื่องซึม ความดันโลหิตต่ำ กระหายน้ำและอาจทำให้เกิดโรคทางระบบประสาทตามมาและถ้าร่างกายได้รับน้ำมากผิดปกติจนเกิดเป็นพิษ เรียกว่า”Water intoxication” จะเกิดอันตรายต่อเซลล์ต่างๆทั่วร่างกายโดยเฉพาะเซลล์สมอง
โรคที่สัมพันธ์กับน้ำ เช่น ปวดศีรษะซึ่งเกิดจากร่างกายหลั่งอิสตามินออกมาทำให้ร่างกายทำงานได้น้อยลง ปวดหลังเกิดจากน้ำในหมอนรองกระดูกน้อยลง ความดันโลหิตสูงและ หืด
ลักษณะของน้ำที่ดีต้องปราศจากการปนเปื้อนทางเคมีและทางอินทรีย์ต่างๆ มีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โครงสร้างโมเลกุลขนาดเล็ก มีความกระด้างของน้ำปานกลาง มีประจุไฟฟ้าสูงและเป็นสื่อนำความร้อนที่ดี มีความเป็นกรด-ด่างระหว่าง pH 7.25-8.50 และมีปริมาณออกซิเจนเจือปนอยู่สูง
ดังนั้นใครอยากมีสุขภาพดี แข็งแรงและห่างไกลโรคควรดื่มน้ำสะอาดปริมาณที่เพียงพอไม่น้อยกว่า 8 แก้วต่อวัน ส่วนคนที่ทำงานหนัก เล่นกีฬา ร่างกายจะต้องการน้ำในปริมาณที่มากกว่ากว่าคนทั่วไปด้วย